เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2568 ศ.ดร. นะซีร มุฮัมมัด อัยยาด ผู้ตัดสินชี้ขาดทางศาสนาอิสลามแห่งสาธารณรัฐอาหรับอียิปต์ ซึ่งอยู่ระหว่างการเดินทางเยือนไทยในฐานะแขกของกระทรวงการต่างประเทศ ได้เข้าพบนายอรุณ บุญชม จุฬาราชมนตรี และคณะผู้ทรงคุณวุฒิฯ เพื่อหารือความร่วมมือด้านการออกคำวินิจฉัยทางศาสนา ที่สำนักจุฬาราชมนตรี ในการหารือดังกล่าว จุฬาราชมนตรีฯ ได้กล่าวว่า การเยือนไทยในครั้งนี้ของ ศ.ดร. นะซีรฯ สะท้อนให้เห็นถึงสายสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งระหว่างไทยกับอียิปต์ ซึ่งครบรอบ 70 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเมื่อปี 2567 และได้ชื่นชมบทบาทของสำนักงานผู้ตัดสินชี้ขาดทางศาสนาอิสลามของอียิปต์ ในการปฏิบัติหน้าที่อย่างสร้างสรรค์ โดยฝ่ายไทยหวังจะเพิ่มพูนความร่วมมือด้านการอบรมและแลกเปลี่ยนประสบการณ์เพื่อส่งเสริมศักยภาพให้แก่บุคลากรของไทยในการตัดสินประเด็นสมัยใหม่ ตลอดจนการใช้เทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์ต่อการออกคำวินิจฉัยได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ

ศ.ดร. นะซีรฯ ได้กล่าวขอบคุณการต้อนรับที่อบอุ่นของฝ่ายไทย และกล่าวว่ามิตรไมตรีของคนไทย ตลอดจนความเชื่อมโยงทางศาสนาและวิชาการทำให้ท่านรู้สึกเหมือนประเทศไทยเป็นบ้านหลังหนึ่งของท่าน นอกจากนี้ ได้แบ่งปันผลการประชุมนานาชาติด้านการออกคำวินิจฉัยทางศาสนา ครั้งที่ 10 ระหว่าง 12-13 สิงหาคม 2568 ที่กรุงไคโร ซึ่งที่ประชุมฯ เน้นย้ำว่า ปัญญาและหลักการทางศาสนา คือ รัศมีสองดวงที่จะเกื้อหนุนซึ่งกันและกัน ทั้งนี้ ปัญญาประดิษฐ์และเทคโนโลยีไม่สามารถแทนที่ผู้ตัดสินปัญหา (มุฟตี) ได้ เนื่องจากการตัดสินทางศาสนาและการวินิจฉัยจะต้องอาศัยความเข้าใจสถานการณ์จริง ซึ่งมีความแตกต่างในแต่ละกรณี นอกจากนี้ ปัญญาประดิษฐ์ยังอ้างอิงข้อมูลจากโลกดิจิทัล ซึ่งเต็มไปด้วยข้อมูลที่ไม่ได้รับการยืนยันความถูกต้อง ดังนั้น การใช้ปัญญาประดิษฐ์ในการออกคำวินิจฉัยจึงต้องมีหลักเกณฑ์ที่ชัดเจน เพื่อให้สามารถใช้เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่จะช่วยให้การทำงานของมุฟตีมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ภายหลังการหารือ ศ.ดร. นะซีรฯ ได้พบปะกับนักศึกษาไทยที่กำลังจะเดินทางไปศึกษาต่อยังมหาวิทยาลัยอัล-อัซฮัร ประมาณ 200 คน โดยชี้แนะให้นักศึกษาใช้สติปัญญาให้เป็นประโยชน์และด้วยความรับผิดชอบ กำหนดเป้าหมายในการศึกษาให้แน่วแน่ และใช้เวลาอย่างคุ้มค่า ทั้งนี้ ได้เน้นย้ำค่านิยมของมหาวิทยาลัยอัล-อัซฮัรที่เปิดรับความแตกต่างทางความคิด ความเชื่อและวัฒนธรรมจากทุกแห่งหน เชื้อชาติและสีผิว ยึดมั่นในแนวทางสายกลาง ยอมรับและรับฟังผู้อื่น ตลอดจนให้อิสรภาพแก่ผู้อื่นในสังคม

อนึ่ง ภายหลังกิจกรรมดังกล่าว จุฬาราชมนตรีได้เลี้ยงอาหารกลางวันเพื่อเป็นเกียรติแก่ ศ.ดร. นะซีรฯ และคณะด้วย

ขอบคุณภาพจากสำนักจุฬาราชมนตรี